22.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 ROW S เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตต์ Emirate Airline (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน
01.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 385 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
05.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)
08.05 น. ออกเดินทางสู่ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเที่ยวบินที่ EK147
13.15 น. เดินทางถึงเดินทางถึง ท่าอากาศยานสคิปโฮลอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อย
นำท่านเดินทางสู่ สวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof) (ใช้เวลาประมาณ 30 ชม.) ตั้งอยู่ใน เมืองลิซเซ่ (Lisse) ด้วยพื้นที่กว่า 200 ไร่ เป็นสวนดอกไม้สำคัญของเนเธอร์แลนด์ และเป็นส่วนหนึ่งในสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะปลูก ดอกทิวลิปที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ ภายในสวนมีดอกทิวลิปกว่า 800 สายพันธุ์ รวมแล้วกว่า 7 ล้านดอก รวมทั้งดอกไม้ชนิดอื่นๆ เช่น ดอกลิลลี่ ดอกแดฟโฟดิล หรือนาซิสซัส ดอกไฮยาซินธ์ ดอกซากุระ และ ดอกกล้วยไม้ อีกหลากหลายสายพันธุ์ สวนที่เปิดให้เข้าชมเฉพาะฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม-พฤษภาคมของทุกปี
ค่ำ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
ที่พัก Novotel Amsterdam Schiphol Airport หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองรอตเตอร์ดัม (Rotterdam) (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองใหญ่อันดับสองของเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ การขนส่งโลจิสติกส์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่มากมาย
นำท่านชม บ้านทรงลูกบาศก์ (Cube Houses) สถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นและสวยงามสะดุดตา ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ที่บริเวณ Oude Haven ซึ่งเคยโดนระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี ค.ศ. 1940 สถาปนิก Piet Blom ผู้ออกแบบได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นโครงการที่พักอาศัยขนาด 40 ยูนิต ออกแบบให้แต่ละยูนิตเป็นตัวแทนของต้นไม้ และเมื่อมารวมกันทั้งโครงการก็เปรียบเสมือนป่าทั้งผืน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) (ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม.) นำท่านเดินชม จัตุรัสโกรตมาร์ก (Grote Markt) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแอนท์เวิร์ป เป็นจุดศูนย์กลาง ประวัติศาสตร์ของเมืองและยังเป็นที่ตั้งของ ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ซึ่งรายล้อมไปด้วยอาคารแบบหน้าจั่วสไตล์เรเนซองส์ ที่มีความงดงามไม่แพ้กรุงบรัส เซลส์และเมืองบรูจส์เลยทีเดียว
จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารแห่งแอนท์เวิร์ป (Cathedral of Our Lady) โบสถ์นี้งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิค ซึ่งถือได้ว่าเป็นโบสถ์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปโดยมีความสูงกว่า 400 ฟุต ภายในโบสถ์ถูกประดับประดาไปด้วยหน้าต่างกระจกสี รวมถึงภาพเขียนชิ้นเยี่ยมของศิลปินชื่อดังคือ ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ (PETER PAUL RUBENS) อีกด้วย จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นและช้อปปิ้ง ณ ถนนแมร์ (Meir) เป็นถนนคนเดินที่คึกคัก มีร้านรวงหรูหราสองฟากฝั่งถนน หรือเดินชม ลานคนเมืองเกรินปลาตส์ (GROENPLAATS) ที่ผู้คนนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ มีอนุสาวรีย์ท่าน รูเบนส์ ตั้งอยู่ตรงกลาง ศิลปินท่านนี้เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของยุโรปและถูกขึ้นทำเนียบว่าเป็น จิตรกรที่ร่ำรวยที่สุดของยุโรป
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบรูจส์ (Bruges) (ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม.) เมืองท่าขนาดใหญ่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเบลเยียม เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการขนานนามว่า เวนิสแห่งยุโรปเหนือ (Venice of the North) เพราะเคยเป็นเมืองท่าและมีความสำคัญทางด้านศิลปะ ยุคจิตรกรรมเนเธอร์แลนด์เฟื่องฟูตอนต้น และได้รับการประกาศกับยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 2000
นำท่านชมเมืองย่านเมืองเก่า จัตุรัสมาร์ก (The Markt) เป็นพื้นที่เก่าเเก่ของใจกลางเมืองมีอาคารเก่าเเก่อยู่รายล้อม มีทั้งวังเก่าของเมืองบรูจส์ รวมถึง จัตุรัสเบิร์ก (The Burg) เป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของใจกลางเมือง บริเวณวังเก่าสไตล์กอธิคซึ่งกลายเป็นศาลาว่าการของเมืองในปัจจุบัน ชม โบสถ์พระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ (Basilica of the Holy Blood) โบสถ์โรมันคาทอลิก เป็นที่เก็บพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ซึ่งในทุกปีจะมีการแห่พระธาตุในวันที่พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สรวงสวรรค์และเป็น 1 ในสถานที่ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก
นำท่านเดินทางสู่ กรุงบรัสเซลส์ (Brussels) (ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม.) เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม เมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมความหลากหลาย และยังเป็นสถานที่ตั้งศูนย์กลางการดำเนินงานของสหภาพยุโรป (EU)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก Ramada Brussels Woluwe หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เมืองใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศที่ในยุคกลางได้ชื่อว่าร่ำรวยและใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ เมืองที่มีเอกลักษณ์ระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์
นำท่านชม หอระฆังประจำเมือง (Belfry of Ghent) ที่สูงตระหง่านถึง 91 เมตร เป็นจุดเด่นของเส้นขอบฟ้า ที่ด้านล่างนั้นเป็น หอประชุมสงฆ์ (Cloth Hall) ที่มีมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 15 และได้รับเกียรติเป็นมรดกโลกจาก UNESCO นำท่านเดินเล่นชม ถนน THE GRASLEI และ THE KORENLEI ถนนเก่าแก่ของเมืองเกนท์ เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองเป็นอาคารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยยุคกลางเรียงรายอยู่สองฝั่งถนน
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับ กรุงบรัสเซลส์ (Brussels) (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) จากนั้น เข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง จัตุรัสกรองด์ปลาสต์ (Grand Place) ที่มีชื่อเสียงกล่าวขานกันว่าเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ชมศาลาว่าการเมืองและอาคารที่สวยงามโดยรอบจัตุรัส นอกเหนือจากนั้นยังมีสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก แบรนด์เนม ขนม สินค้าแฮนเมด และอีกมากมายให้ท่านได้เลือกสรร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กลับ กรุงบรัสเซลส์ (Brussels) นำท่านชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ อนุสรณ์อะโตเมี่ยม (Atomium) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการจัดงานแสดงสินค้าโลก“เอ็กซ์โป” เมื่อปี ค.ศ.1958 ถูกสร้างขึ้นโดยจำลอง 1.65 แสนล้านเท่า
นำท่านถ่ายรูปกับ เมเนเก้นพีส (Manneken pis) ซึ่งเป็นประติมากรรมเด็กชายตัวเล็กๆกำลังยืนแอ่นตัวปัสสาวะอย่างน่ารัก เมเนเก้นพีสผู้สร้างประวัติศาสตร์และตำนานพื้นเมืองของชาวเบลเยี่ยมซึ่งมีการเล่าขานกันมาหลากหลายตำนาน เช่น มีเด็กชายชื่อจูเลียนสกี มาพบสายชนวนระเบิดกำลังติดไฟ จึงปัสสาวะรดเพื่อดับชนวนและป้องกันเมืองไว้ได้ ชาวเมืองจึงทำรูปแกะสลักนี้ เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญ
จุดเด่นของรูปปั้นเมเนเก้นพีส คือแต่ละวัน หนูน้อยคนนี้ก็จะแต่งตัวไม่เหมือนกัน บางทีเป็นชุดประจำชาติของประเทศต่างๆ บางทีเป็นชุดเทศกาลนั้นๆ ต้องมาลุ้นกันวันที่เดินทางว่าจะได้รูปกับหนูน้อยในชุดไหนกัน !!!!!!
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่นพิเศษ หอยแมลงภู่อบไวน์ขาว และวาฟเฟิลเบลเยี่ยม
ที่พัก Ramada Brussels Woluwe หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ประเทศลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) (ใช้เวลาประมาณ 2.40 ชม.) เป็นหนึ่งในประเทศที่เล็กที่สุดในโลก นำท่านชม ย่านเมืองเก่าลักเซมเบิร์ก และมหาวิหารน็อทร์ ดาม (The Old Quarter of Luxembourg City and Notre Dame Cathedral) ผ่านชมสะพานสมัยโรมัน โบสถ์โนเตรอะดาม ประติมากรรมสำริดของแกรนด์ดัชเชส ชาร์ล็อตต์ ศาลาว่าการเมือง พระราชวังที่ประทับของแกรนด์ดยุค อาคารรัฐสภา โบสถ์เซนต์ไมเคิล และป้อมปราการสมัยโรมัน ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองที่บ้านเรือนตั้งเรียงรายอยู่ในแนวหุบเขาดูสวยงามยิ่ง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญ (Cologne) (ใช้เวลาประมาณ 2.40 ชม.) เมืองสำคัญริมแม่น้ำไรน์ เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี และเคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการสงครามโลกครั้งที่ 2 โดนระเบิดทางอากาศทั้งหมด 14 ลูก เมืองโคโลญเหลือแต่ซากปรักหักพัง ในส่วนของเมืองเก่าที่งดงามก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักและได้รับการบูรณะใหม่ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมาก
นำท่าชม มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) เพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารีมหาวิหารแห่งพลังศรัทธาที่สร้างอย่างยิ่งใหญ่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก มีความสูงถึง 157.38 เมตร เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกระดับอาสนวิหารในเมืองโคโลญ สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1248 แต่กว่าจะสำเร็จก็ถึงปีค.ศ.1880 แม้วิหารจะได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 บางส่วน แต่ก็ไม่พังทลายลงมา นอกจากนั้นมหาวิหารแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ปี ค.ศ.1996 อีกด้วย
จากนั้นนำท่านชม ย่านเมืองเก่าโคโลญ (Cologne Old Town) ซึ่งจะอยู่ใกล้บริเวณของวิหารที่อยู่ใกล้กับริมแม่น้ำไรน์ เป็นย่านที่มีตรอกซอยอาคารบ้านเรือน ร้านอาหารมากมาย ใกล้กันจะมี ที่ว่าการเมืองโคโลญ (Cologne City Hall) เป็นที่ว่าการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน และ โบสถ์เซนต์มาร์ตินคริสตจักร (Great St. Martin Church) โบสถ์คาทอลิกแบบโรมัน ชม สะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) สะพานประจำเมืองที่คู่กับมหาวิหารโคโลญ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ เป็นอีกหนึ่งสะพานที่นักท่องเที่ยวนิยมมาคล้องกุญแจความรักที่นี่ อิสระให้ท่านได้ชมบรรยากาศเมืองตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก Mercure Koln West หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ Designer Outlet Roermond (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) แหล่งช้อปปิ้งที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมายกว่า 70 ร้าน เช่น CELINE, KENZO, LONGCHAMP, POLO, BLANC BLEU, FRANCOIS GIRBAUD, ETC. และสินค้าท้องถิ่นของที่ระลึกและอื่นๆ ตลอดจนร้านกาแฟสตาร์บัค เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น AUCHAN, CENER COMMERCIAL VAL DE EUROPE ให้ท่านได้เลือกซื้ออย่างจุใจ
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัยเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
จากนั้นนำท่านมุ่งหน้าสู่ หมู่บ้านกีธูร์น (Giethoorn Village) (ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.) เยี่ยมชมเมืองที่ได้รับฉายาว่า “เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์” เมืองเล็กๆที่มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 2,600 คน เป็นหมู่บ้านที่ปราศจากถนนหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยคลอง ทะเลสาบ จึงทำให้ปราศจากมลพิษผู้คนในหมู่บ้านจะเดินทางโดยการใช้เรือเป็นพาหนะ จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น ลัดเลาะคลองที่มีความยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร อิสระให้ท่านเที่ยวชมหมู่บ้านแห่งนี้ พร้อมเก็บภาพความประทับใจกับบรรยากาศของหมู่บ้าน unseen แห่งเนเธอร์แลนด์
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม.)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พิเศษเมนู ปลาแฮริ่งเนเธอร์แลนด์
ที่พัก Novotel Amsterdam Schiphol Airport หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์ (Zaanse Schans) (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) หมู่บ้านที่มีการอนุรักษ์กังหันลมและบ้านเรือนดั้งเดิมของฮอลแลนด์ซึ่งปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่งในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ดกระดาษงานไม้
ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมียังมีโรงงานสาธิตวิธีการทำชีส (Catharina Hoeve Cheese) และการทำรองเท้าไม้ (Clog) ที่เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ที่เป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนาน
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam) (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) นำท่านสัมผัสวิถีชีวิตของเมืองชาวประมงที่เรียงรายไปด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ รวมไปถึงท่าเรืออันแสนคึกคักของเมือง อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์อนุรักษ์วัฒนธรรมการแต่งกายแบบดั้งเดิมของชาวดัตช์ไว้ที่เมืองนี้อิสระให้ท่านได้ชมเมืองและเลือกซื้อขอวงฝากของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านเข้าชม สถาบันสอนการเจียระไนเพชร (Coster Diamond) ที่มีชื่อเสียงท่านจะได้สัมผัสและเรียนรู้พื้นฐานในการดูและการเจียระไนเพชรในรูปแบบต่างๆ พร้อมกันนั้นยังได้มีโอกาสเลือกซื้อเพชรเม็ดงามในราคาโรงงานและท่านสามารถเลือกชมสินค้าอื่น อย่างนาฬิกายี่ห้อดังมากมาย อาทิ เช่น ROLEX, PANERAI, TAG HEUERIWC, PIAGET, LONGINES, OMEGA, TISSOT, CARTIER, BREITLING, CHOPARD รวมไปถึงนาฬิกาแฟชั่นอย่าง GUCCI, DIESEL, DKNY, CHANEL, ICE , EMPORIO ARMANI, SWATCH,MICHEAL KORS, TOMMY HILFIGER จากนั้นนำท่านเดินเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าที่บริเวณ จัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) ศูนย์กลางของเมืองที่มีอนุสรณ์สงครามเพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 และอดีตศาลาว่าการเมืองที่หลุยส์ โบนาปาร์ตเคยใช้เป็นพระราชวังหลวงในช่วงที่จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศสเรืองอำนาจ อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม ณ ห้างสรรพสินค้าใจกลางจัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) ตามอัธยาศัย
ค่ำ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสคิปโฮลอัมสเตอร์ดัม (Schiphol Amsterdam Airport) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Tax Refund)
21.50 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EK150 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)
09.40 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตต์ เที่ยวบินที่ EK372
18.55 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
111/85 หมู่ 16 ตำบล บางแก้ว อำเภอ บางพลี จังหวัด สมุทรปราการ 10540